หลอดเลือดกับโคเลสเตอรอล
โดยทั่วไปเมื่อคนเราอายุมากขึ้น ผนังของหลอดเลือดแดงจะแข็งตัวขึ้น ทำให้ขาดความยืดหยุ่น ถ้ามีแผ่นคราบไขมัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโคเลสเตอรอล มาเกาะติดที่ผนังด้านใน จะทำให้หลอดเลือดแดงตีบแคบลง เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (atherosclerosis) เมื่อเป็นมากขึ้น เลือดจะไหลผ่านไม่ดี เกิดเป็นก้อนอุดตันได้ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือด (coronary heart discase)
จากการศึกษาในประชากรทั่วโลก พบว่า ผู้ใหญ่ที่มีระดับโคเลสเตอรอลในเลือด สูงเกินกว่า 260 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร จะมีอุบัติการณ์ของโรคหัวใจขาดเลือด สูงกว่าคนที่มีระดับโคเลสเตอรอลในเลือด น้อยกว่า 220 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ประมาณ 3-5 เท่า การที่มีระดับโคเลสเตอรอลรวม (total cholesterol) ในเลือดสูง ส่วนใหญ่เกิดจากการมี ระดับแอลดีแอลโคเลสเตอรอลสูง (LDL-C)
การมีระดับแอลดีแอลโคเลสเตอรอล มากกว่า 130 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร จัดเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ของการเกิดภาวะหลอดเลือดแข็ง เราจึงถือว่า แอลดีแอลโคเลสเตอรอล เป็นโคเลสเตอรอลเลว ส่วนเอชดีแอลโคเลสเตอรอล เป็นโคเลสเตอรอลดี เพราะทำหน้าที่ขนถ่ายโคเลสเตอรอล จากผนังหลอดเลือดแดงที่แอลดีแอลไปปล่อยไว้กลับคืนสู่ตับ ซึ่งตับจะเผาผลาญโคเลสเตอรอล เป็นน้ำดีแล้วขับออกจากร่างกายทางอุจจาระ เรายังพบว่า คนที่มีปริมาณระดับเอชดีแอลโคเลสเตอรอล (HDL-C) น้อยกว่า 35 มก./ดล. จะมีโอกาสเป็นโรคหัวใจขาดเลือด มากกว่าคนที่มีเอชดีแอลโคเลสเตอรอลสูง
โรคหัวใจ การเรียกของ "กลุ่มอาการโรคหัวใจ" ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของหัวใจ ซึ่งแยกได้เป็น 8 ประเภทหลัก คือ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด โรคลิ้นหัวใจ โรคกล้ามเนื้อหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเยื่อหุ้มหัวใจ โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ติดเชื้อที่หัวใจ และ มะเร็งหัวใจ
หน้าที่เข้าชม | 401,628 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 239,236 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 พ.ค. 2555 |
ร้านค้าอัพเดท | 2 ก.ย. 2568 |